Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1386
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorอุดม, สรายุทธ-
dc.contributor.authorธระที, สาคร-
dc.contributor.authorชูเลิศ, สุทธิรัตน์-
dc.date.accessioned2025-08-05T05:58:20Z-
dc.date.available2025-08-05T05:58:20Z-
dc.date.issued2566-
dc.identifier.urihttp://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1386-
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้ ใช้วิธีดำเนินการวิจัยแบบแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงเอกสาร การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพ และ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ พื้นที่วิจัยคือจังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างเป็นตัวแทนประชากรที่อาศัยอยู่ในอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๓๘๕,๔๙๑ คน ใช้วิธีสุ่ม จำนวนประชากรแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย ๑.การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามที่มี ลักษณะค้าถามแบบปลายปิด ๒. การวิจับเชิงคุณภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์ค้าถามแบบปลายเปิด ๓. การวิจัย เชิงปฏิบัติการ ใช้สนทนากลุ่มย่อย การวิเคราะห์ข้อมูล (๑) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยการแจกแจงหาค่าร้อยละ นำเสนอในรูปแบบตารางประกอบความเรียง (๒) การวิเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ใช้วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และวิธีตีความตามเนื้อหา (๓) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปฏิบัติการ วิเคราะห์ องค์ความรู้ ตัวชี้วัด และผลลัพธ์ ผลการวิจัย พบว่า การบริหารจัดการฟื้นฟูสุขภาพจิตของประชาชนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดได้เข้าใจกับสถานการณ์กับการดำเนินวิถีชีวิตกันมากขึ้นด้วยการการเรียนรู้และพัฒนาจิตใจต่อสถานการณ์ไปได้ด้วยดี ประกอบด้วย ๑. มีสติเครื่องคุ้มกันทางด้านจิตใจทำให้ความทุกข์เบาบางลง มีสภาวะจิตใจดีขึ้นจนทำให้สามารถเผชิญกับปัญหาและวิกฤตการณ์ได้ ๒. การประยุกต์ใช้พุทธจิตวิทยาและนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นเครื่องเตือนสติปัญญาตามหลักวิชาการว่าการฉีดวัคซีนทางใจจนเกิดการเรียนรู้ด้วย อริยสัจ ๔ ทำให้เกิดการใช้สติปัญญารับรู้ว่า สาเหตุเกิดจากอะไรและวิธีการแก้ไขอย่างไร พร้อมทั้งให้คำแนะนำการปฏิบัติของตนเองต่อผู้อื่นเพื่อช่วยลดปัญหาที่เกิดจากความผิดพลาดได้ สัมมัปปธาน ๔ ทำให้เกิดการมีสติระลึกรับรู้ในทุกมิติ รวมถึงการปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ด้วยการมีสติในการแก้ปัญหา มีสติในการดูแลตัวเอง และเพียรรักษากุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้วให้คงอยู่ ด้วยการ (๑) มีสติโดยยึดหลักกาลามสูตรใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างรอบคอบ (๒) มีสติในการแก้ปัญหาโดยตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง และ (๓) มีสติในการดูแลตัวเอง ไม่ทำให้เกินเลยต่อความต้องการของตนเอง จนก่อให้เกิดผลกระทบทั้งต่อตนเองและส่วนรวม ฉะนั้น องค์ความรู้ที่ได้จากการบริหารจัดการและการลดผลกระทบสุขภาพจิตของประชาชนโดยภาพรวม ทำให้มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดมีความเข้มงวดมากขึ้นทั้งในแง่จำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลงและขนาดของพื้นที่ที่ใช้สำหรับการกักตัวมีอย่างเพียงพอ อีกทั้งประชาชนเริ่มคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตอยู่กับการระบาดที่มีผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับหนึ่ง ส่วนการฟื้นฟูสุขภาพจิตของประชาชนตามแนวพุทธจิตวิทยา พบว่า จากสถานการณ์ จุดเริ่มต้นจะเห็นได้ว่า ผู้นำชุมชนมีจิตสำนึก มีจิตอาสา มีความเอื้ออาทรต่อกันและกันโดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านที่ได้เข้ามาให้การช่วยเหลือ การแนะนำด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิ (อสม.) เป็นต้นen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยen_US
dc.subjectพุทธจิตวิทยาen_US
dc.subjectการฟื้นฟูสุขภาพจิตen_US
dc.subjectสถานการณ์การระบาดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙en_US
dc.titleศึกษาพุทธจิตวิทยากับแผนการฟื้นฟูสุขภาพจิตของประชาชนในสถานการณ์ การระบาดเชื้อไวรัสโควิด-๑๙en_US
dc.title.alternativeStudy of Buddhist psychology and plans to rehabilitate people's mental health in the situation of the COVID-19 outbreaken_US
dc.typeOtheren_US
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.038.2566.pdf5.11 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.