Please use this identifier to cite or link to this item: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1364
Title: ธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียง : รูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการน้ำของวัดและชุมชน
Other Titles: Sufficiency Groundwater Bank: Pattern and Processes of Water Management of Temples and Communities
Authors: พรหมกัลป์, อัครเดช
พระธรรมวชิรธีรคุณ
พระครูนิวิฐกิจจานุรักษ์
Keywords: การบริหารจัดการน้ำ
ธนาคารน้ำใต้ดิน
ธนาคารน้ำใต้ดินระบบเปิด
ธนาคารน้ำใต้ดินระบบปิด
ธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียง
Issue Date: 2566
Publisher: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Abstract: แผนงานวิจัยเรื่อง “ธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียง : รูปแบบและกระบวนการบริหาร จัดการน้ำของวัดและชุมชน” มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการน้ำ ตามแนวธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียง 2) พัฒนาการบริหารจัดการน้ำตามแนวธนาคารน้ำใต้ดินแบบ พอเพียงของวัดและชุมชน และ 3) พัฒนาศูนย์การเรียนรู้ธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียงกับการบริหาร จัดการน้ำต้นแบบ โดยใช้การวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปฏิบัติการ การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมี ส่วนร่วม วิเคราะห์ผลประกอบฐานข้อมูลจากภาพถ่ายกิจกรรมและการพรรณนาความประกอบการ บรรยายถึงข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับรูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการน้ำของวัดและชุมชนตาม แนวธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียง ผลการวิจัยพบว่า 1. รูปแบบและกระบวนการบริหารจัดการน้ำตามแนวธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียงของ วัด ชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการจัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง น้ำเน่าเสียจาก การซักล้าง และแก้ไขปัญหาภัยแล้ง โดยส่วนใหญ่จะประยุกต์ใช้หลักการธนาคารน้ำใต้ดินทั้ง 2 ระบบ คือ ระบบปิดจะมีการจัดทำทั้งแบบหลุมขนมครกในครัวเรือนและแบบรางไร้ท่อ และระบบเปิดจะ จัดทำในลักษณะของลำเหมือง ลำคลอง และสระหรือบ่อน้ำที่มีการขุดสะดือที่มีความลึกถึงชั้นหินอุ้ม น้ำ โดยใช้วัสดุ อุปกรณ์ แรงงานในครัวเรือนและชุมชน และบางส่วนได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 2. การขับเคลื่อนพัฒนาการบริหารจัดการน้ำตามแนวธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียงของ วัดและชุมชน ได้มีการสร้างความตระหนักรู้และการลงมือฝึกปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดทักษะในพื้นที่ 2 ตำบลต้นแบบ คือ ตำบลหนองนมวัว อำเภอลาดยาว และตำบลหัวถนน อำเภอท่าตะโก จังหวัด นครสวรรค์ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคีเครือข่ายได้มีส่วนร่วมผ่านกระบวนการ 1) การ ค้นหาปัญหา 2) การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อแก้ไขปัญหา 3) การผนึกกำลังแกนนำชุมชนที่มีจิตอาสา 4) การร่วมกันลงมือทำ และสุดท้าย 5) การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทั้งนี้เพื่อขยายฐานความรู้ไปสู่ เด็กและเยาวชนให้มีการสืบสาน พัฒนา และต่อยอด 3. การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ธนาคารน้ำใต้ดินแบบพอเพียงต้นแบบ มีการจัดทำฐานการ เรียนรู้ในอาคารและฐานการเรียนรู้กลางแจ้งจำนวน 9 ฐาน พร้อมกับมีการจัดทำหลักสูตรระยะสั้น เพื่อจัดฝึกอบรมให้ความรู้และทักษะให้กับผู้ที่สนใจจำนวน 3 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรระยะสั้น 8 ข ชั่วโมง 16 ชั่วโมง และ 24 ชั่วโมง และมีการทดลองจัดฝึกอบรมนำร่องให้กับคณะพระสังฆาธิการ และผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผลประเมิน พบว่า ด้านเนื้อหาในการจัดฝึกอบรมผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมเห็นว่ามีความเหมาะสมในระดับมากที่สุด ด้านความรู้ความเข้าใจหลังจากการฝึกอบรมผู้เข้า รับการอบรมมีความรู้เพิ่มมากขึ้นในทุกมิติ และในส่วนของการบริหารจัดการฝึกอบรม ผู้เข้ารับการ ฝึกอบรมมีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
URI: http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/1364
Appears in Collections:รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
ว.024.2566.pdf32.6 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.